คุณพ่อคุณแม่มือใหม่ต้องรู้! วัคซีนเด็กแรกเกิดควรฉีดวัคซีนป้องกันโรคอะไรบ้าง

การฉีดวัคซีนเด็กแรกเกิดถือเป็นหนึ่งในเรื่องสำคัญที่คุณพ่อคุณแม่ไม่ควรมองข้าม เพราะอาจส่งผลถึงความแข็งแรงของสุขภาพร่างกายตั้งแต่วัยเยาว์ถึงช่วงบ้ันปลายในชีวิต เพื่อให้ลูกน้อยมีภูมิคุ้มกันต้านทานโรคภัยไข้เจ็บที่พร้อมจะพุ่งเข้าหาลูกน้อยของคุณ แรบบิท แคร์ ขอชวนคุณพ่อคุณแม่ทุกท่านมาดูกันว่า วัคซีนเด็กแรกเกิดควรฉีดวัคซีนป้องกันโรคอะไรบ้าง

ประเภทวัคซีนเด็กแรกเกิดที่คุณพ่อคุณแม่ต้องรู้

ก่อนจะพาเด็กทารกตัวน้อยที่เพิ่งเกิดมาไปฉีดวัคซีน คุณพ่อคุณแม่จำเป็นต้องรู้ก่อนว่า วัคซีนเด็กแรกเกิดมีกี่ประเภท เพื่อให้วางแผนฉีดได้เหมาะสมกับลูกน้อย อาจแบ่งเป็น 2 กลุ่มใหญ่ได้ ดังนี้

  1. วัคซีนเด็กแรกเกิดพื้นฐาน : ปกติแล้วกระทรวงสาธารณสุขจากกำหนดวัคซีนเด็กแรกเกิดไว้ประมาณ 9 ตัว ควบคุมได้กว่า 11 โรค ซึ่งวัคซีนเหล่านี้คุณพ่อคุณแม่สามารถพาเด็ก ๆ ไปฉีดได้ฟรี ได้แก่ วัคซีนบาดทะยัก ไอกรน ฮิบ โปลิโอ วัคซีนหัด หัดเยอรมัน วัคซีนป้องกันวัณโรค วัคซีนตับอักเสบบี วัคซีนคอตีบ คางทูม วัคซีนไข้สมองอักเสบเจอี วัคซีนโรต้า
  2. วัคซีนเด็กแรกเกิดเพิ่มเติม : วัคซีนทางเลือกสำหรับผู้ปกครองที่ต้องการให้บุตรหลานมีภูมิต้านทานโรคเพิ่มเติม แต่วัคซีนกลุ่มนี้จะต้องเสียค่าใช้จ่ายเอง

รวมวัคซีนเด็กแรกเกิดที่จำเป็นต้องฉีด

ด้วยความที่วัคซีนเด็กแรกเกิดมีหลายตัว คุณพ่อคุณแม่จึงจำเป็นต้องเตรียมข้อมูลให้พร้อมก่อนพาลูกน้อยไปฉีดให้เหมาะสมกับในแต่ละช่วงอายุ ดังนี้

  • เด็กแรกเกิด

วัคซีนบีซีจี (BCG) : วัคซีนเด็กแรกเกิดตัวนี้จะฉีดเพื่อป้องกันวัณโรค โดยปกติจะฉีดให้เด็กทารกก่อนออกจากโรงพยาบาล

วัคซีนตับอักเสบบี (HBV Vaccine) : วัคซีนป้องกันโรคไวรัสตับอักเสบบี ปกติจะฉีดวัคซีนเด็กแรกเกิดตัวนี้เข็มเดียวทันทีภายใน 24 ชั่วโมงหลังคลอด ในกรณีที่คุณแม่มีเชื้อไวรัสตับอักเสบบี คุณหมออาจแนะนำให้ฉีดเข็มที่ 2 ตอนอายุ 1 เดือน

  • 1 เดือน

ฉีดวัคซีนเด็กแรกเกิดวัคซีนตับอักเสบบี (HBV Vaccine) เข็มที่สอง ในบางกรณี

  • 2 เดือน – 4 เดือน – 6 เดือน

วัคซีนรวมป้องกัน 5 โรค สำหรับเด็กแรกเกิด (DTP-HB , Tritanrix-HB) : ป้องกันโรคคอตีบ-บาดทะยัก-ไอกรน-ตับอักเสบบี ปกติวัคซีนฮิบ (Hib) ก็จะฉีดพร้อมกับกลุ่มนี้

วัคซีนโปลิโอแบบหยอด (OPV) หรือแบบฉีด (IPV) : เพราะโรคโปลิโอไม่มียารักษา มีแต่วัคซีนป้องกันเท่านั้น ควรให้ตามช่วงอายุตั้งแต่ 2, 4, 6 เดือน, 1 ปี 6 เดือน และ 2 ปี ครึ่งตามลำดับ

วัคซีนโรต้า (Rota Vaccine) : ตัวนี้จะฉีดวัคซีนเด็กแรกเกิด เพื่อป้องกันโรคท้องเสียจากไวรัสโรตา แต่จะต้องระวังเรื่องระยะเวลา เพราะห้ามให้วัคซีนโรต้าครั้งแรก ในเด็กอายุมากกว่า 15 สัปดาห์ และครั้งสุดท้าย ไม่เกินเด็กทารกที่มีอายุกว่า 32 สัปดาห์

วัคซีนนิวโมคอคคัส หรือวัคซีนไอพีดี (IPD) : อีกหนึ่งวัคซีนเด็กแรกเกิดตัวเสริมสำหรับป้องกันโรคปอดบวม ติดเชื้อในกระแสเลือด และเยื่อหุ้มสมองอักเสบ

*ช่วงระยะเวลา 2 – 4 – 6 เดือน จะเป็นการให้วัคซีนเด็กแรกเกิดต่อเนื่องกัน เพราะในบางตัวต้องให้ครบโดส 3 เข็ม

  • 9-12 เดือน

วัคซีนหัด-หัดเยอรมัน-คางทูม (MMR) : วัคซีนป้องกันโรคหัด หัดเยอรมัน และคางทูม แนะนำให้ฉีดประมาณช่วง 9 เดือน ถึง 1 ขวบ ไม่ควรฉีดเร็วไป เพราะร่างกายยังไม่สามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้

วัคซีนไข้สมองอักเสบเจอี (Live-JE, IMOJEV, CO-JEVAX) : วัคซีนเด็กแรกเกิดตัวนี้เป็นวัคซีนที่ใช้ป้องกันโรคไข้สมองอักเสบ ควรฉีดเข็มแรกภายในอายุ 9 เดือน และอาจฉีด 2 เข็ม โดยเว้นช่วงระยะเวลาห่างกัน 1 ปี

วัคซีนไข้หวัดใหญ่ (Vaxigrip, Influvac, Fluquadri) : วัคซีนตัวนี้เป็นวัคซีนเด็กแรกเกิดตัวเสริม สำหรับป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ การรับวัคซีนครั้งแรกต้องฉีด 2 เข็ม ห่างกัน 4 สัปดาห์ หลังจากนั้นแนะนำให้ฉีดปีละ 1 ครั้งก่อนเข้าฤดูฝน

การฉีดวัคซีนเด็กแรกเกิด ถือเป็นการลงทุนครั้งสำคัญเพื่อลูกน้อย ซึ่งคุณพ่อคุณแม่ทุกท่านไม่ควรลืมหรือมองข้ามเด็ดขาด รวมถึงแม้ส่วนใหญ่จะมีการจัดให้ฉีดฟรี โดยสาธารณสุข แต่หากคุณหมอประเมินแล้วว่า ลูกน้อยมีความเสี่ยงในด้านในเป็นพิเศษ หรือคุณพ่อคุณแม่มีความกังวลใจต้องการเสริมภูมิคุ้มกันป้องการโรคไหนเพิ่มเติมก็อย่าลืมศึกษาข้อมูลและพาลูกน้อยไปฉีดตามความเหมาะสม และเลือกจ่ายด้วย ‘บัตรกดเงินสด’ ของแรบบิท แคร์ สมัครง่ายจ่ายสบายกระเป๋า ตอบโจทย์ครอบคลุมทุกความต้องการ พร้อมดูแลครบทุกประเภทค่าใช้จ่าย จะยอดน้อยหรือเยอะก็กดออกมาใช้ได้รวดเร็วทันใจ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม คลิก!